วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

สนามกีฬาไก่ชนเทิดไท สนามไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

เพื่อเป็นการพัฒนากีฬาไก่ชนให้เป็นกีฬาอย่างเต็มตัว จึงได้มีการพัฒนาไก่ชนไทย เสนอพระราชบัญญัติการเพาะเลี้ยงไก่ชน เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ไก่ชนไทยให้ก้าวไกลสู่การท่องเที่ยว ในอดีตพันธุ์ไก่ชนไทยเป็น "มรดกของไทย" มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งถึงกรุงรัตนโกสินทร์ มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือพันธุ์ "ประดู่หางดำ" และ "เหลืองหางขาว"

นาย วิศิษฐ์ ภิญโญบริสุทธิ์ กรรมการบริหารสนามกีฬาไก่ชนเทิดไท กล่าวว่า ความเป็นมาของการสร้างสนามกีฬาไกชนเทิดไท มีจุดประสงค์ต้องการให้สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสนามกีฬาไก่ชนที่ได้มาตรฐาน ที่สามารถเป็นสนามอนุรักษ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว จะสังเกตได้ว่าสนามกีฬาไก่ชนแห่งนี้ สร้างขึ้นอย่างถูกสุขลักษณ์ และเป็นสนามมาตรฐานมีการรักษากฎระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาธิเช่น กระทรวงมหาดไทย และกรมปศุสัตว์ ซึ่งขณะนี้มีหลายหน่วยงานที่ช่วยกันผลักดันกีฬาไก่ชนให้เป็นกีฬาอย่างเต็ม ตัว โดยไก่ที่นำมาแข่งขันนั้นมีการ ใส่นวมเหมือนกีฬาชกมวย ไก่ไม่มีทางบาดเจ็บถึงตาย อาจจะมีเจ็บนิดหน่อยเหมือนๆ กับคนที่ชกมวย สนามกีฬาไก่ชนเทิดไท แห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากจะมีสนามไก่ชนขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีสนามเล็กๆ อยู่รอบ ๆ สนามใหญ่อีก 9 สนาม บนเนื้อที่ 4 ไร่ นอกจากนี้ที่ดินบริเวณนี้ ยังมีสนามฟุตบอล สนามแข่งนก ที่สร้างขึ้นมาบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ เหมาะสำหรับคนชอบเล่นกีฬา และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก เส้นทางที่จะเดินทางมาที่สนามกีฬาไก่ชนเทิดไท ที่สะดวกที่สุด คือเส้นทางมอเตอร์เวย์ เลยจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาประมาณ 6 กิโลเมตร และลงเส้นอ่อนนุชวิ่งมาทางเส้นทางคลองสวน พอถึงแยกอ่อนนุช เพียง 2 กิโลเมตร ก็จะถึงสนามกีฬาไก่ชนเทิดไท

สำหรับรูปร่างลักษณ์ไก่ชนที่ดีในขณะนี้ก็มีความหลากหลาย ตามแต่ละสายพันธ์ อย่างเช่น สายพันธ์เหลืองหางขาว ที่เราอนุรักษ์กันอยู่ในตอนนี้ ก็มีสายพันธ์ที่ดีและมีเชิงชน ที่ชาวนักชนไก่หรือผู้รู้เชิงของไก่สายพันธ์นี้รู้จักกันดี ซึ่งเราก็พยายามอนุรักษ์ และส่งเสริมรูปแบบของไก่ชนสายพันธ์นี้ ที่ดีก็คือเราพยายามจะอิงในสิ่งที่ต่างประเทศต้องการ ว่าเชิงชนของไก่ประเภทนี้ ทางต่างประเทศต้องการอย่างไร เราก็พยายามที่จะลอกเรียนแบบเพื่อให้เกิดการค้าขายกันขึ้น ก็คือหากต่างประเทศเทศสนใจและมีการซื้อขาย เกษตรกรก็มีรายได้เพิ่มขึ้นมาด้วย และในช่วงนี้มีชาวบ้านนำไก่เข้ามาร่วมแข่งขันน้อยไปบ้าง เพราะอยู่ในระหว่างไก่ผลัดขน ส่วนที่ยังมีมาแข่งขันก็เป็นไก่ชนที่มีความสมบูรณ์ในแต่ละจะมีไก่เข้ามาร่วม แข่งขันจำนวน 8-10 คู่ แต่ในช่วงเวลาที่ปกติที่ไก่มีความสมบูรณ์ ที่สุดก็มีมีมาแข่งขันกันวันละ 20 คู่ขึ้นไป ส่วนไก่ชนที่มีราคาแพงที่สุดที่เคยเข้ามาร่วมแข่งขันในสนามนี้มีราคาสูงสุด 3 แสนบาท ส่วนในขณะนี้ไก่ชนที่ราคาสูดที่สุดในสนามแห่งนี้มีเพียงตัวเดียว คือ เจ้าจงอาง ที่มีราคาสูงถึง หนึ่งแสนสองหมื่นบาท ซึ่งเป็นไก่ที่มีลักษณ์เด่นก็คือ เวลาจะเข้าไปตีกับคู่ต่อสู้ จะมีการก้มหัวเข้าไปทำท่าจะฉกเหมือนงูจงอาง และอีกอย่างที่บริเวณหน้าแข้งของไก่ตัวนี้จะออกเขียว ๆ ซึ่งจะไม่เหมือนไก่ตัวอื่น ๆ ซึ่งในการลงแข่งขันทั้ง 4 ครั้งได้รับชัยชนะมาโดยตลอดและเป็นการชนะที่ค่อนข้างจะสวยงามมาก ลักษณ์เด่นก็คือจะให้คู่ต่อสู้ตีถูกตัวเขาได้น้อยมาก ถึงว่าเป็นการตีที่ลัดกุม ส่วนเจ้าจงอาง ตัวนี้เป็นไก่สายพันธ์ผสม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำไก่หลายสายพันธ์มาผสมกัน มีไก่สายพันธ์เวียดนาม ไก่สายพันธ์พม่า และไก่สายพันธ์ไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของเกษตรกรจริง ๆ ที่นำลักษณ์ที่เด่น ๆ ของไก่แต่ละสายพันธ์นำมาผสมเป็นไก่สายพันธ์เดียวกัน มองลักษณ์ก็คือไก่ไทย แต่ถ้าเช็คเลือดกันจริง ๆ แล้วก็จะพบว่าเป็นไก่ที่มาจากสามสายพันธ์ พม่า-เวียดนาม-ไทย ลักษณ์ของไก่สายพันธ์เวียดนาม จะสังเกตได้ว่าที่บริเวณหัวจะไม่ค่อยมีขน หนังหนากระดูกใหญ่ ส่วนสายพันธ์ไก่ไทย ก็ความฉลาดแขวงอยู่ในตัว ส่วนไก่สายพันธ์พม่าเป็นไก่ที่มีลักษณ์ว่องไว้ออกแข้งเร็ว มีรูปมวยที่ไว้มาก โดยรวมของเจ้าจงอางนี้ก็คือ มีความฉลาดแบบไทย มีความว่องไว้เหมือนพม่า มีความแข็งแกร่งเหมือนไซ่ง่อน อันนี้ถือว่าเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Satellite : THAICOM-5
System :C-BAND
Frequency : 3545 MHz
Symbol Rate: 30000
Polarity : Vertical

ThaiRedNews 2539 Imperial World Ladprao Bangkok 10230

Design for Mozilla Firefox 1280 x 768 WideScreen Edition