วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความเห็นต่อหนังสือ "กฎหมายมหาชน" โดย ดร.โภคิน พลกุล

ความเห็นต่อหนังสือ”กฎหมายมหาชน” ของ ดร.โภคิน
หลักกฎหมาย (Rule of Law) เป็นหลักหนึ่งของระบอบการปกครอง เป็นหลักหนึ่งของอำนาจการปกครอง ไม่ว่าระบอบจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตยต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ถ้าอำนาจเป็นของปวงชนเขียนกฎหมาย กฎหมายก็จะเป็นของปวงชน ถ้าอำนาจเผด็จการเขียนกฎหมาย กฎหมายก็จะไม่เป็นของปวงชน หรือมหาชน ผมไม่ได้อ่านหนังสืออาจารย์ ดร.โภคิน ว่าพูดถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยอย่างไรหรือไม่ แต่ประเทศสยามและไทยมีปัญหาหลักกฎหมายนี้มาตลอด ว่ากฎหมายมหาชนเราไม่ค่อยมีความหมายในทางปฏิบัติ มีอยู่แต่ใน "กระดาษ"เท่านั้น แม้แต่รัฐธรรมนูญก็ไม่เคยเป็นเอกสารศักดิ์สิทธิ เหมือนของอารยะประเทศเขา เพราะอะไร ลองช่วยกันหาคำตอบหน่อยปะไร – วิบูลย์ แช่มชื่น


ความจริงปัญหาของไทยในเรื่องนี้เป็น ประเด็นข้อกำหนดใน รธน. ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และในทุกฉบับด้วย และเป็นปัญหาเกี่ยวกับการให้สัตยาบรรณ Ratification ต่อ Rome Statute คือธรรมนูญกรุงโรมด้วย เกี่ยวข้องกับเขตอำนาจศาล (Jurisdiction) ของ ICC ด้วย ปัญหาในวันนี้คือ Rome Statute ไม่ได้ยกเว้นการกระทำผิดของประมุขประเทศไว้ ถ้าเกิดมีการสังหารคนตายหมู่จำนวนมาก อย่างกรณี เมษา-พ.ค. ๕๓ทีเกิดในไทย Rome Statute ก็ไม่มีข้อยกเว้น นั่นคือ ประมุขของไทยจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เป็นปัญหาที่ทำให้ไทยเป็นภาคีไม่ได้ หรือได้ไม่เต็มที่เพราะข้อกำหนดดังกล่าว แม้รัฐบาลได้ลงนามไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถเสนอเข้าสู่รัฐสภาได้ จึงควรสาธารณะและผู้แทนปวงชน ควรพิจารณาทบทวนว่าควรจะเป็นอย่างไรดี Rule of Law ในกรณีนี้จึงจะสามารถเป้นหลักแห่งยุติธรรมได้จริง

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

การแสวงหาความสุขทำได้ตลอดชีวิต

ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใด

ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง
คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น
แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า
เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น
แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น
คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง
และเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้
คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น
แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ
จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน
บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆ
และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน
ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด
แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที

ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน?
แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต
เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน
ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ
แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข
มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน
แล้วถึงจะมีความสุขได้

เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต

ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์

นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา
รางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า

ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย

นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า
คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด
ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน
ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ
และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ

...ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข
มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..
ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน
สูตรเกี่ยวกับบุคลิกของตัวเองที่ควรไปจะคู่ กับสูตรสุขภาพมีอย่างนี้
๑. อย่าเปรียบเทียบชีวิตของตัว เองกับคนอื่น คุณไม่รู้หรอกว่าคนที่คุณอิจฉานั้นเขา มีความทุกข์ยิ่งกว่าคุณอย่างไรบ้าง
๒. อย่าคิดทางลบเกี่ยวกับ เรื่องที่คุณควบคุมหรือกำหนดไม่ได้ แทนที่จะมองโลก ในแง่ร้าย, ก็ทุ่มเทกำลังและพลังงานให้กับความคิด ทางบวก ณ ปัจจุบันเสีย
๓. อย่าทำอะไร เกินกว่าที่ตัวเองทำได้...รู้ว่ าขีดจำกัดของตัวเองอยู่ที่ไหน
๔.. อย่าเอา จริงเอาจังกับตัวเองนักเพราะคนอื่นเขา ไม่ได้ซีเรียสกับคุณเท่าไหร่หรอก
๕. อย่า เสียเวลาและพลังงานอันมีค่าของคุณกับ เรื่องหยุมหยิมหรือเรื่องซุบซิบ....นอกเสียจากว่ามันจะทำให้คุณ ผ่อนคลายได้อย่างจริงจัง
๖. จงฝันตอนตื่นมากกว่าตอน หลับ
๗. ความ รู้สึกอิจฉาริษยาเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ...คิดให้ดีก็จะรู้ว่าคุณมีทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีแล้ว
๘. ลืมเรื่อง ขัดแย้งในอดีตเสีย และอย่าได้เตือนสามี หรือภรรยาคุณเกี่ยวกับความผิดพลาดในอดีตของอีกฝ่ายหนึ่งเลย เพราะมันจะทำลายความสุขปัจจุบันของคุณ
๙. ชีวิตนี้สั้นเกินกว่าที่เราจะไปโกรธเกลียดใคร...จงอย่าเกลียดคนอื่น
๑๐.ประกาศ สงบศึกกับอดีตให้สิ้น, จะได้ไม่ทำลายปัจจุบันของคุณ
๑๑.ไม่มีใครกำหนดความสุขของคุณได้นอกจากคุณเอง
๑๒.จงเข้าใจเสียว่าชีวิตก็คือโรงเรียน คุณมาเพื่อเรียน รู้ และปัญหาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรซึ่งมาแล้วก็หาย ไป...เหมือนโจทย์วิชาพีชคณิต...แต่สิ่งที่คุณเรียนรู้นั้นอยู่กับคุณตลอด ชีวิต
๑๓. จง ยิ้มและหัวเราะมากขึ้น
๑๔. คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกครั้งที่ถก เถียงกับคนอื่นหรอก...บางครั้งก็ยอมรับว่าเราเห็นแตกต่างกัน ได้...เห็นพ้องที่จะเห็นต่างก็ไม่เห็นเสียหายแต่อย่างไร

แล้วเราควรจะมีทัศนคติอย่างไรต่อชุมชนและคนรอบข้าง เราล่ะ?
๑. อย่าลืมโทรฯหาครอบครัวบ่อย ๆ
๒. จงหาอะไรดี ๆ ให้คนอื่นทุกวัน
๓. จงให้อภัยทุกคนสำหรับทุกอย่าง
๔. จงหาเวลาอยู่กับคนอายุเกิน 70 และต่ำกว่า 6ขวบ
๕. พยายามทำให้อย่างน้อย 3 คนยิ้มได้ทุกวัน
๖. คนอื่นเขาคิดอย่างไรกับคุณไม่ใช่ เรื่องของคุณสัก หน่อย
๗. งานของคุณไม่ดูแลคุณตอนคุณป่วยหรอก แต่ครอบครัวและเพื่อนคุณต่างหากเล่าที่จะดูแลคุณในยามคุณมีปัญหา สุขภาพ ดังนั้น, อย่าได้ห่างเหินกับคนใกล้ชิดเป็น อันขาด
และถ้าหากสามารถดำรงชีวิตให้มีความหมายได้, ก็ควรจะทำ ดังต่อไปนี้
๑. ทำสิ่งที่ควรทำ
๒. อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์, ไม่สวย, ไม่น่ารื่นรมย์,จงทิ้ง ไปเสีย...เก็บไว้ทำไม?
๓. เวลาและพระเจ้าย่อมรักษาแผล ทุกอย่างได้
๔. ไม่ว่าสถานการณ์จะดีหรือเลวปานใด, เดี๋ยว มันก็เปลี่ยน
๕. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรในตอนเช้าของทุกวัน, จงลุก จากเตียง, แต่ง ตัวและปรากฎตัวต่อหน้าคนที่เราร่วมงาน ด้วย...get up, dress up and show up.
๖. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
๗. ถ้าคุณยังลุกขึ้นตอนเช้าได้, อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือเสียด้วย
๘. เชื่อเถอะว่าส่วนลึก ๆ ในใจของคุณนั้นมีความสุข เสมอ..ดังนั้น, ส่วนนอกของคุณทุกข์โศกไปทำไมเล่าและสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

บอกต่อกับคนที่คุณรักและที่คุณไม่รักต่อไปให้มากที่สุดฯ

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

TNN





 







วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Thailand: Living dangerously



After a violent end to the most recent protests, Thailand, a country of over 60 million people, is facing its worst political crisis in decades.

For two months since March of 2010, anti-government protestors, the so-called red shirts, had taken over key parts of downtown Bangkok, demanding for Abhisit Vejjajiva, the country's current prime minister, to step down, dissolve parliament, and call fresh elections.

The sit-ins had paralysed Bangkok and threatened to rock the Thai economy, which is the second largest in Southeast Asia.

The red shirts have been calling for Abhisit's resignation since he came to power in 2009 – after Thaksin Shinawatra, the country's populist prime minister, was ousted in a bloodless military coup in 2006.

In 2008 Thaksin was sentenced in absentia to two years in jail after being found guilty of abuse of power in a land acquisition deal during his time in office. He was charged with corruption, and subsequent governments also fell under fraud charges.

Abhisit came to power through a parliamentary vote, rather than a popular vote. And that is the major bone of contention for the red shirts, largely rural and working class people from Thailand's north and northeast.

They are staunch supporters of Thaksin, and feel robbed of their vote ever since he was removed from power.

Far-reaching consequences
The clashes have disrupted the lives of many of Bangkok's 12 million residents [Reuters]

Political upheaval is nothing new in Thailand.

This country has been through 18 coups and about as many constitutional changes in the last 80 years.

But it is the coup that removed Thaksin, that could have far-reaching consequences for the country, especially after how the government chose to deal with the latest demonstrations: They send in the army to remove the red shirts from Bangkok's streets with brute force.

More than 80 people were killed and over 1800 were injured with most of the victims being civilians.

The crackdown left a destroyed city – 37 buildings were badly burned or completely gutted as the retreating red shirts vented their rage at symbols of the prosperity of Bangkok's economic elite: Banks, the stock exchange, and shopping malls, including the iconic Central World shopping center.

Sukhumbandh Paribatra, the governor of Bangkok, says the political divisions in Thai society have deepened and hardened like never before.

He says the divisions go right down to the family level, where spouses and siblings find themselves on opposite sides of the political fence – one of the red shirts, and the other of Abhisit.

What further complicates this situation is the silence of Thailand's monarchy.

In the past, King Bhumibol Adulyadej, the world's longest-serving monarch who is revered by all Thais, has traditionally stepped in to diffuse political tensions and persuade political rivals to find non-violent solutions to their conflicts.

This time, however, the 83-year-old king is in poor health and is convalescing in a Bangkok hospital.

He has chosen to remain silent and his devotees say it is better this way, since the king should not be seen as taking sides in an already tense situation.

After the protests ended, many red shirt leaders were arrested and charged with terrorism. A warrant was also issued against Thaksin Sinawatrs on terrorism charges.

When the red shirts had protested in 2009, they were dispersed by the army.

But one year later, they were back in larger numbers. After their most recent defeat, they are determined to return...

Rageh Omaar travels to the scarred city of Bangkok to find out what happened the day the protests ended, and what will happen to Thailand now.

The Rageh Omaar Report: Thailand: A year of living dangerously can be seen from Wednesday, June 16, at the following times GMT: Wednesday: 1900; Thursday: 0300, 1400; Friday: 0600; Saturday: 1900; Sunday: 0300.

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Red Shirt leader shot as unrest continues in Thai capital



Bangkok, Thailand (CNN) -- A leader of anti-government protests in Thailand was shot in the head while being interviewed at the demonstrations, according to the journalist who was with him at the time.

Seh Daeng was in critical condition, according to his guards with the Red Shirt protesters.

Video footage taken just after the shooting showed Seh lying on the ground, dressed in camouflage, as frantic protesters attempted to move him and get help. Seh appears to be bleeding from a head wound. Footage from the hospital showed medics covering Seh's face as he was brought in on a stretcher amid a throng of media.

Tom Fuller of the International Herald Tribune told CNN he was interviewing Seh at the time of the shooting.

Witnesses said the gunshot appeared to come from a rooftop in a corner of Bangkok's Lumpini Park, where protesters have amassed.

While it was unknown whether Thailand's military or government was behind the shooting, the government has previously made it clear it would shoot at what it called armed terrorists.

A renegade Thai general, Seh, whose full name is Maj. Gen. Kattiya Sawasdipol, is one of the Red Shirts' most radical, hard-line leaders, said CNN's Dan Rivers.

Other, more moderate leaders of the organization, who had insisted the protests were peaceful, had sought to distance themselves from him.

Explosions and gunfire were heard near the site of the protests in Bangkok. One of the explosions came just after She's shooting, according to witnesses. It was not immediately clear whether the explosion stemmed from Red Shirt retaliation for the shooting.
Satellite : THAICOM-5
System :C-BAND
Frequency : 3545 MHz
Symbol Rate: 30000
Polarity : Vertical

ThaiRedNews 2539 Imperial World Ladprao Bangkok 10230

Design for Mozilla Firefox 1280 x 768 WideScreen Edition