วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552
"บัวแก้ว"รับรัฐบาลนิคารากัวให้พาสสปอร์ต"ทักษิณ"ไปแล้วจริง
นายธฤต จรุงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวกรณีที่รัฐบาลนิคารากัวยอมรับมอบหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ล่าสุดการตรวจสอบเมื่อเช้าวันนี้จากสถานทูตไทยในเม็กซิโกระบุว่า สำนักงานประธานาธิบดีนิคารากัวมอบหนังสือเดินทางให้อดีตนายกฯเป็นทูตใน กิจกรรมพิเศษในการดึงดูดนักลงทุนให้มาลงทุนที่นิคารากัว โดยมอบให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
นายธฤต กล่าวว่า หนังสือเดินทางฉบับนี้อดีตนายกนใช้เดินทางไปประเทศต่างๆได้แต่ขึ้นอยู่ว่า ประเทศเหล่านั้นจะอนุญาตให้อดีตนายกฯเข้าประเทศหรือไม่ แต่ทูตไทยในเม็กซิโกแจ้งกับทูตนิคารากัวว่าในทางปฏิบัติไม่อยากให้นิคารากัว เป็นฐานที่อดีตนายกฯใช้โจมตีประเทศไทย แม้ไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับนิคารากัวแต่ทูตไทยได้ประสานไป แล้วว่าเรื่องนี้ได้ประสานแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง สองประเทศ ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นใดนั้นต้องรอต่อไป
“นิคารากัวอยู่ห่างไทยค่อนโลกอาจไม่ทราบข่าวสารของอดีตนายกฯมีปัญหาอะไรบ้าง และตอนนี้ไม่มีข้อมูลว่าอดีตนายกฯลงทุนที่นิคารากัวหรือไม่ อย่าลืมว่าสื่อในนิคารากัวก็มีคำถามกันว่าสมควรหรือไม่ที่รัฐบาลจะอนุมัติ หนังสือเดินทางให้อดีตนายกฯที่มีคดีความติดตัว ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯใช้นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นที่ตั้ง โดยไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่รัฐบาลขอความร่วมมือไปแล้วโดยอาศัยถ้อยทีถ้อยปฏิบัติของสองประเทศเช่นกัน "นายธฤต
เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าอดีตนายกฯมีหนังสือเดินทางกี่ประเทศ นายธฤตกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีกี่เล่ม เพราะในทางปฏิบัติ มันอยู่ที่ว่าประเทศนั้นๆจะอนุมัติว่าจะออกหนังสือเดินทางให้บุคคลนั้นๆตาม ที่ร้องขอไปหรือไม่ และไทยไม่สามารถไปก่าวก้ายได้นอกจากขอความร่วมมือแบบถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ ระหว่างสองประเทศเท่านั้น
นายธฤต กล่าวว่า หนังสือเดินทางฉบับนี้อดีตนายกนใช้เดินทางไปประเทศต่างๆได้แต่ขึ้นอยู่ว่า ประเทศเหล่านั้นจะอนุญาตให้อดีตนายกฯเข้าประเทศหรือไม่ แต่ทูตไทยในเม็กซิโกแจ้งกับทูตนิคารากัวว่าในทางปฏิบัติไม่อยากให้นิคารากัว เป็นฐานที่อดีตนายกฯใช้โจมตีประเทศไทย แม้ไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับนิคารากัวแต่ทูตไทยได้ประสานไป แล้วว่าเรื่องนี้ได้ประสานแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง สองประเทศ ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นใดนั้นต้องรอต่อไป
“นิคารากัวอยู่ห่างไทยค่อนโลกอาจไม่ทราบข่าวสารของอดีตนายกฯมีปัญหาอะไรบ้าง และตอนนี้ไม่มีข้อมูลว่าอดีตนายกฯลงทุนที่นิคารากัวหรือไม่ อย่าลืมว่าสื่อในนิคารากัวก็มีคำถามกันว่าสมควรหรือไม่ที่รัฐบาลจะอนุมัติ หนังสือเดินทางให้อดีตนายกฯที่มีคดีความติดตัว ส่วนกรณีที่อดีตนายกฯใช้นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นที่ตั้ง โดยไทยไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่รัฐบาลขอความร่วมมือไปแล้วโดยอาศัยถ้อยทีถ้อยปฏิบัติของสองประเทศเช่นกัน "นายธฤต
เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าอดีตนายกฯมีหนังสือเดินทางกี่ประเทศ นายธฤตกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีกี่เล่ม เพราะในทางปฏิบัติ มันอยู่ที่ว่าประเทศนั้นๆจะอนุมัติว่าจะออกหนังสือเดินทางให้บุคคลนั้นๆตาม ที่ร้องขอไปหรือไม่ และไทยไม่สามารถไปก่าวก้ายได้นอกจากขอความร่วมมือแบบถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ ระหว่างสองประเทศเท่านั้น
วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552
Thai Redshirt . We Want Democracy Back . Apisit Get Out!!! Mar-26-2009
20,00 people of thai news report "manager.com" (shit news paper online) and the yellow gang 10000-20000 people of all thai news report 20000 people of Thai (fake) goverment report But +100000 people on the amateur cams.this is real story Ps. Plase belive your eye more than all thai news report or Thai "Apisit" Goverment and the bad soldier gang
วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552
เผยโฉม หน้าถ่อย จิกหัวผู้หญิง ข้อมูลลับระบุ เป็นคนไม่นับถือศาสนา
ผู้ที่แสดงพฤติกรรม ไอ้ถ่อย กระชากและจิกลากหัวผู้หญิงที่ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ ASTV ระบุ กระทำไปด้วยโทสะ ควบคุมตนเองไม่ได้ โดยตนเอง ชื่อ กวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข เป็นหมอดูและช่างซ่อมคอมพิวเตอร์
โดยก่อนหน้านี้ ไอ้ถ่อยคนดังกล่าว ได้เขียนกระทู้ที่ http://www.webboard.mahamodo.com/webboard_others/wb/viewquestion.aspx?id=514&pageNo=4&wb=fulltalk&show=text&txtfind= เปิดเผยพฤติกรรม และลักษณะนิสัยของตนเอง ดังนี้
ทุกวันนี้เป็นคนมีอาชีพ(เรียกว่างานอดิเรกดีกว่า) ดูดวงก็มีประสปการณ์ไม่มากเพราะทำๆหยุดๆ เรียนรู้ด้วยตนเองมาโดยตลอด ส่วนใหญ่ใช้หลักการของอาจารย์ดำริห์ ไตรรักษ์
แต่ก็ไม่ได้ยึดในหลักการเดียวขอให้เอาไปใช้แล้วมันใช้การได้ ผมใช้ดวงราศีจักรอย่างเดียวไม่ได้ใช้ดวงนวางศ์จักร ยึดเอาดวงเกษตร ประ อุจจ์ จักร นิจ มาเป็นแม่บท ไม่ได้ใช้องศาหรือว่าการเปรียบเทียบหาคุณภาพดาวแบบดวงนวาศ์จักร ไม่ได้ใช้ทักษาหรือตนุเศษ ต้องการจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กันไม่ได้มาที่เรื่องหลักการหรือแนวทางการตี ความหมาย(เดียวกลายเป็นเถียงกัน) แต่มาแลกเปลี่ยนกันในด้านสถิติของตำแหน่งดาวและสิ่งที่ส่งผลตามประสปการณ์ ที่ได้สังเกตุมาของแต่ละคน ผมสังเกตุว่าหลักการต่างกันแต่เวลาทายจุดใหญ่ๆทายได้เหมือนกัน แต่ลักษณะการให้เหตุผลดูอาจจะแตกต่างกันนั่นไม่เป็นไร ผมตอนนี้ก็อายุ 27 ปี เกิด 13/07/2522 เวลา 22.19 น.
ลัคนาราศีกุมภ์ เป็นคนมีความคิดแตกแยกไปจากที่คนส่วนใหญ่ที่เขาคิดกัน
(ก่อนจะคุยกับผมแน่ใจนะว่ารับคนที่พูดตรงๆแบบไม่เข้าข้างทางใดทางหนึ่ง) ผมไม่นับถือศาสนาใดเพราะเป็นกลางดังนั้นอย่างพูดเรื่องศาสนามารวมกันด้วย คุยกันได้เรื่องโหราศาสตร์และไพ่ยิปซี บางทีผมอาจจะมีคำแนะนำดีๆก็ได้
ผมออนไลน์msn : tommy13_@hotmail.com ทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 20.30 น. และอีกช่วง
คือเวลา 4.00 น.- 7.00 น. ผมทิ้งเบอร์ไว้ให้
โทร 086-795-7041 (กรุณาอย่าโทรมาตอนเช้าและบ่ายเพราะผมนอนอยู่)ถ้ามีเรื่องเล่าสู่กันฟังก็ดีครับ
นั่นคือโหวเฮ้งของผม http://album.siamza.com/web_view.php?album=39811
และมีบล๊อคของตนเอง ที่ http://cid-e4145a788eabd44a.profile.live.com/
ส่วนดวงชะตาของชายคนดังกล่าว อยู่ที่ http://www.webboard.mahamodo.com/webboard/webboard_hora_viewquestion_freehora.aspx?id=27600&pageNo=52&wb=webboard&show=text&txtfind=
ในมุมกลับกันสิน่ากลัว ไทยรัฐเช้านี้
ในมุมกลับกันสิน่ากลัว [16 เม.ย. 52 - 04:13]
อย่างน้อยๆก็ต้องได้ไปกับคะแนนของความรับผิดชอบ แกนนำม็อบ นปช. ไม่เอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อสังเวยปลายกระบอกปืนทหาร
ที่แน่ๆถ้าดันทุรังสู้ แล้วคนตายเป็นเบือ
ด้วยข้อหา “สารเลว” พาคนไปตาย ที่ฝ่ายถืออำนาจและสื่อในสังกัดพร้อมกระพือ กระแสเสื้อแดงที่เร้ากันไว้ครึ่งค่อนประเทศ
มีหวังดับวูบ ไม่มีทางจุดติดอีกต่อไป
และก็เป็นอะไรที่ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าซะทีเดียว
กับ รายการที่เกิดขึ้นกับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ถูกล็อกกุญแจมือไพล่หลัง หิวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปสอบสวนที่ค่ายนเรศวร เพชรบุรี ตั้งข้อหาร้ายแรง โทษฐานบุกโรงแรมล้มโต๊ะงานประชุมอาเซียน ทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสียหน้า
ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำม็อบ นปช. ยอม สลายม็อบ เดินเข้ามอบตัวกับตำรวจโดยดี แต่โดนล็อกตัวแยกขังเดี่ยวตามค่ายทหาร และ ตชด.
เทียบกับขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯที่โดนข้อหาก่อการร้ายสากล บุกยึดท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ปิดสนามบินดอนเมือง ยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเดือนๆ
ตำรวจต้องโค้งคำนับตอนรับมอบตัว ต้อนรับประดุจบุคคลสำคัญ และจนถึงวันนี้ผ่านมา 3-4 เดือนแล้ว คดียังคาราคาซัง ไม่คืบหน้าไปถึงไหน
เช่น เดียวกัน เมื่อตอนม็อบเสื้อเหลือง ทหารแค่ถือโล่คุมเชิงม็อบพอเป็นพิธี แต่ถึงคิวของม็อบเสื้อแดง ทหารถือปืนเอ็ม 16 ขับรถหุ้มเกราะ ระดมอาวุธหนักครบมือ ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ลั่นกระสุนปืน เดินหน้าตาถมึงทึงเข้าหาผู้ชุมนุม
โดยมาตรฐานความเท่าเทียมทางกฎหมาย ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาล “อภิสิทธิ์ชน”
ทำให้คนเสื้อแดงสะกดคำว่า “สองมาตรฐาน” เป็น
แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยยุทธศาสตร์การจัดการที่ยังห่างชั้นกับม็อบเสื้อเหลืองที่มีระบบการควบคุมม็อบอย่างเป็นระบบ
สั่งซ้ายหัน ขวาหัน ได้แบบหุ่นยนต์
ในขณะที่คนเสื้อแดงแตกเป็นดาวกระจาย มาจากหลายสาย ไม่มีระบบการควบคุมกันเอง
ไร้ทิศทางการเคลื่อนไหว ยุทธศาสตร์เป้าหมายไม่เคลียร์
นั่น ก็นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนเกม เมื่อม็อบแท็กซี่ในเครือข่ายวิทยุชุมชนที่ไม่พอใจแกนนำ นปช.เดินเกมไม่ดุดันทันใจ ตัดสินใจนำทีมฮาร์ดคอร์ปิดถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้การจราจรในเมืองกรุงเป็นอัมพาต
ชาวบ้านเดือดร้อนรุมก่นด่า กระแสตีกลับ
ที่สำคัญโดยการเคลื่อนไหวที่ไร้ยุทธศาสตร์ ยิ่งง่ายต่อเกมแทรกของพวก “แดงปลอม” ในเครือข่ายพ่อมดเขมร ส่งทีมมาช่วยป่วนสถานการณ์
ล่อบาทาให้คนเสื้อแดง
ยัง ไม่นับความอ่อนหัดของคนระดับแกนนำเองแท้ๆ ที่คุมอารมณ์ ได้ไม่นิ่งพอ พลาดทะเลาะกับสื่อ เพราะไม่พอใจเสนอแต่ข่าวด้านลบ ขู่ไม่รับรองความปลอดภัย เล่นเอานักข่าวกระเจิง ไม่กล้าอยู่ในวงผู้ชุมนุม ทำให้พื้นที่ข่าวม็อบแดงหายไปโดยปริยาย
หลงเกมควักตาสื่อ ก่อนโดนรัฐบาลปิดประตูตีแมว
โดย เกมโรมรันพันตู ต้องสู้กับแนวร่วมสหบาทา อำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์ ทหาร ม็อบพันธมิตรฯเสื้อเหลือง ก๊วนเพื่อนเนวิน แม้ม็อบคนเสื้อแดงมีแนวร่วมแน่น มากด้วยปริมาณ แต่ขาดการจัดการ คุมม็อบหลายสายไม่ได้
จำเป็นต้องกลับมาปรับยุทธศาสตร์กันใหม่
และ โดยหัวเชื้อไวไฟ รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เสียงปังจากปลายกระบอกปืนของทหาร ตั้งแถวปราบประชาชนมือเปล่า
มวลชนเสื้อแดงรอแค่ปรับทัพ
ใน เมื่อยังมีตัวเล่นทีมเอ ไล่ยี่ห้อตั้งแต่ “จาตุรนต์ ฉายแสง-สุธรรม แสงประทุม-ภูมิธรรม เวชชยชัย-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฯลฯ” ระดับ “มืออาชีพ” งานมวลชนตัวจริงเสียงจริง พร้อมจัดเกมรบให้เป็นระบบ
บนดินก็เร้าใจ แต่มุดลงใต้ดินยิ่งเร้าใจกว่า.
อย่างน้อยๆก็ต้องได้ไปกับคะแนนของความรับผิดชอบ แกนนำม็อบ นปช. ไม่เอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อสังเวยปลายกระบอกปืนทหาร
ที่แน่ๆถ้าดันทุรังสู้ แล้วคนตายเป็นเบือ
ด้วยข้อหา “สารเลว” พาคนไปตาย ที่ฝ่ายถืออำนาจและสื่อในสังกัดพร้อมกระพือ กระแสเสื้อแดงที่เร้ากันไว้ครึ่งค่อนประเทศ
มีหวังดับวูบ ไม่มีทางจุดติดอีกต่อไป
และก็เป็นอะไรที่ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าซะทีเดียว
กับ รายการที่เกิดขึ้นกับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ถูกล็อกกุญแจมือไพล่หลัง หิวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปสอบสวนที่ค่ายนเรศวร เพชรบุรี ตั้งข้อหาร้ายแรง โทษฐานบุกโรงแรมล้มโต๊ะงานประชุมอาเซียน ทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสียหน้า
ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำม็อบ นปช. ยอม สลายม็อบ เดินเข้ามอบตัวกับตำรวจโดยดี แต่โดนล็อกตัวแยกขังเดี่ยวตามค่ายทหาร และ ตชด.
เทียบกับขาใหญ่ม็อบพันธมิตรฯที่โดนข้อหาก่อการร้ายสากล บุกยึดท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ ปิดสนามบินดอนเมือง ยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นเดือนๆ
ตำรวจต้องโค้งคำนับตอนรับมอบตัว ต้อนรับประดุจบุคคลสำคัญ และจนถึงวันนี้ผ่านมา 3-4 เดือนแล้ว คดียังคาราคาซัง ไม่คืบหน้าไปถึงไหน
เช่น เดียวกัน เมื่อตอนม็อบเสื้อเหลือง ทหารแค่ถือโล่คุมเชิงม็อบพอเป็นพิธี แต่ถึงคิวของม็อบเสื้อแดง ทหารถือปืนเอ็ม 16 ขับรถหุ้มเกราะ ระดมอาวุธหนักครบมือ ตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง ลั่นกระสุนปืน เดินหน้าตาถมึงทึงเข้าหาผู้ชุมนุม
โดยมาตรฐานความเท่าเทียมทางกฎหมาย ภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาล “อภิสิทธิ์ชน”
ทำให้คนเสื้อแดงสะกดคำว่า “สองมาตรฐาน” เป็น
แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยยุทธศาสตร์การจัดการที่ยังห่างชั้นกับม็อบเสื้อเหลืองที่มีระบบการควบคุมม็อบอย่างเป็นระบบ
สั่งซ้ายหัน ขวาหัน ได้แบบหุ่นยนต์
ในขณะที่คนเสื้อแดงแตกเป็นดาวกระจาย มาจากหลายสาย ไม่มีระบบการควบคุมกันเอง
ไร้ทิศทางการเคลื่อนไหว ยุทธศาสตร์เป้าหมายไม่เคลียร์
นั่น ก็นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนเกม เมื่อม็อบแท็กซี่ในเครือข่ายวิทยุชุมชนที่ไม่พอใจแกนนำ นปช.เดินเกมไม่ดุดันทันใจ ตัดสินใจนำทีมฮาร์ดคอร์ปิดถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้การจราจรในเมืองกรุงเป็นอัมพาต
ชาวบ้านเดือดร้อนรุมก่นด่า กระแสตีกลับ
ที่สำคัญโดยการเคลื่อนไหวที่ไร้ยุทธศาสตร์ ยิ่งง่ายต่อเกมแทรกของพวก “แดงปลอม” ในเครือข่ายพ่อมดเขมร ส่งทีมมาช่วยป่วนสถานการณ์
ล่อบาทาให้คนเสื้อแดง
ยัง ไม่นับความอ่อนหัดของคนระดับแกนนำเองแท้ๆ ที่คุมอารมณ์ ได้ไม่นิ่งพอ พลาดทะเลาะกับสื่อ เพราะไม่พอใจเสนอแต่ข่าวด้านลบ ขู่ไม่รับรองความปลอดภัย เล่นเอานักข่าวกระเจิง ไม่กล้าอยู่ในวงผู้ชุมนุม ทำให้พื้นที่ข่าวม็อบแดงหายไปโดยปริยาย
หลงเกมควักตาสื่อ ก่อนโดนรัฐบาลปิดประตูตีแมว
โดย เกมโรมรันพันตู ต้องสู้กับแนวร่วมสหบาทา อำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์ ทหาร ม็อบพันธมิตรฯเสื้อเหลือง ก๊วนเพื่อนเนวิน แม้ม็อบคนเสื้อแดงมีแนวร่วมแน่น มากด้วยปริมาณ แต่ขาดการจัดการ คุมม็อบหลายสายไม่ได้
จำเป็นต้องกลับมาปรับยุทธศาสตร์กันใหม่
และ โดยหัวเชื้อไวไฟ รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เสียงปังจากปลายกระบอกปืนของทหาร ตั้งแถวปราบประชาชนมือเปล่า
มวลชนเสื้อแดงรอแค่ปรับทัพ
ใน เมื่อยังมีตัวเล่นทีมเอ ไล่ยี่ห้อตั้งแต่ “จาตุรนต์ ฉายแสง-สุธรรม แสงประทุม-ภูมิธรรม เวชชยชัย-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฯลฯ” ระดับ “มืออาชีพ” งานมวลชนตัวจริงเสียงจริง พร้อมจัดเกมรบให้เป็นระบบ
บนดินก็เร้าใจ แต่มุดลงใต้ดินยิ่งเร้าใจกว่า.
Bangkok turns into warzone
Violence is escalating in the Thai capital Bangkok, as the army clashes with anti-government protestors.
วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552
วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552
อภิสิทธิ์ สั่ง ลิ่วล้อ แจ้งความจับคนเสื้อแดง
เมื่อเวลา 23.30 น.ของวันที่ 7 เม.ย.52 ร้อยตรี มนตรี ปราโมทย์ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด การ์ดประจำตัว นาย อภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ สิบเอก รังสรรค์ แย้มพยุง อายุ 35 ปี สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นคนขับรถของ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ขับรถพุ่งชนมหาประชาชนชาวเสื้อแดง เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีประชาชนในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และ ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งยืนยันต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
หลังสอบสวนเบื้องต้นแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำ สิบเอก รังสรรค์ แย้มพยุง เข้าพบแพทย์ที่ รพ.พัทยา-เมโมเรียล เพื่อตรวจร่างกาย
EU Bans Thai, Ukraine, Kazakhstan, Benin Airlines From EU
BRUSSELS (Dow Jones)--The European Commission banned airlines from Thailand, Ukraine, Kazakhstan and Benin from flying to the European Union because of safety concerns, it said Wednesday.
The commission, the E.U.'s executive body, has added Thailand's One Two Go Airlines, all airlines from Benin, six carriers from Kazakhstan and Ukraine's Motor Sich Airlines to its blacklist of airlines not allowed to fly to the bloc, it said in a statement.
The commission regularly publishes a list of passenger and cargo airlines which are banned from flying to its 27 member countries because they aren't considered safe enough.
Air Company Kokshetau, ATMA Airlines, Berkut Air, East Wing, Sayat Air and Starline KZ are the Kazakhstan carriers banned Wednesday.
-By Alessandro Torello and Peppi Kiviniemi, Dow Jones Newswires; +32 2 741 14 88; alessandro.torello@dowjones.com
http://online.wsj.com/article/BT-CO-20090408-704139.html
วันเสาร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)